บทที่ 16 เหตุร้าย (25%)
หลังจากวันที่บูรณิมาร้องห่มร้องไห้ จำใจเก็บเสื้อผ้าย้ายมาอยู่ที่คอนโดอย่างกะทันหันตามคำสั่งประกาศิตของแม่ ส่วนพ่อกับแม่ก็ลงมือเก็บข้าวของอย่างเร่งด่วน หลังจากนั้นพวกท่านก็ไม่ติดต่อมาหาเธออีกเลย ถึงแม้จะผ่านไปแค่สองวัน แต่ก็ทำเอาเธอร้อนใจจนแทบบ้า ถึงขั้นกล้าขัดคำสั่งโทรไปหาพ่อกับแม่ แต่ปรากฏทั้งคู่ไม่ยอมรับโทรศัพท์ รอแล้วรอเล่าสุดท้ายสายก็ตัดไป เป็นอย่างนี้อยู่ไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง
ด้วยความกลัดกลุ้มเรื่องพ่อกับแม่จนนอนไม่หลับ พลอยทำให้ตื่นสาย หลังจากอาบน้ำชำระร่างกาย ร่างอวบก็เดินออกมาชงโอวัลติน และปิ้งขนมปัง พอจัดการกับอาหารเช้าแบบง่ายๆ เสร็จ เธอก็เดินมาทรุดกายลงนั่งตรงโซฟา หยิบโทรศัพท์มากดโทรหาแม่ แต่ปรากฏว่าอีกฝ่ายไม่ยอมรับสายดังเดิม ทำเอาใบหน้าสวยหวานมีแววกังวลฉายออกมาอย่างเห็นได้ชัด ครั้นลองกดโทรหาพ่อ ผลก็ไม่ต่างกัน สุดท้ายเธอจึงทำได้เพียงถอนหายใจออกมาแรงๆ อย่างกลัดกลุ้ม แต่ก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไง ไม่รู้ว่าตอนนี้พ่อกับแม่เป็นยังไงบ้าง ไม่รู้ว่าสรุปแล้วทั้งคู่ย้ายไปอยู่ต่างจังหวัดแล้วหรือยัง
สงบสติอารมณ์อยู่พักใหญ่ บูรณิมาก็ตัดสินใจไปทรุดตัวลงนั่งตรงหน้าโน้ตบุ๊ก แล้วเริ่มพิมพ์นิยายในบทที่ทำค้างไว้เพราะสมองตื้อตั้งแต่เมื่อคืน แต่ด้วยความที่จิตใจว้าวุ่นสารพัดทำให้เธอไม่สามารถพิมพ์ข้อความอะไรออกมาเป็นชิ้นเป็นอันได้ พิมพ์แล้วก็ลบ ลบแล้วลบอีก เป็นอย่างนั้นอยู่หลายครั้ง เนื่องจากไม่มีสมาธิจดจ่อในงานของตัวเองแม้แต่น้อย สุดท้ายก็วางมือจากแป้นคีย์บอร์ดด้วยท่าทางหมดอาลัยตายอยาก ถอนหายใจเฮือกใหญ่ แล้วหันไปกดรีโมตเปิดโทรทัศน์ดูข่าวฆ่าเวลา กะว่าสักพักถึงจะกลับไปจดจ่ออยู่หน้าคอมใหม่
ร่างอวบเอนตัวนอนลงบนโซฟา เงี่ยหูฟังข่าว นิ้วไถหน้าจอโทรศัพท์ ส่วนตาก็กำลังไล่เช็กและอ่านคอมเม้นท์ในนิยายตอนล่าสุดที่เพิ่งลงอัพเดทไปเมื่อวานนี้ ใจชื้นขึ้นมาหน่อยเมื่อมีคอมเม้นท์โดนใจ
กระทั่งข่าวหนึ่งดังขึ้น ร่างอวบทะลึ่งพรวด จ้องหน้าจอโทรทัศน์เขม็ง ขณะตั้งใจฟังเนื้อหาของข่าว นักข่าวรายงานว่านีรา ซึ่งนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลรักษ์ ได้เสียชีวิตอย่างน่าสลด หลังจากมีคนลอบเข้าไปทำร้ายเมื่อห้าวันก่อน จนอาการทรุดหนัก ที่สุดแพทย์ก็ไม่สามารถยื้อชีวิตเอาไว้ได้
นีราตายแล้ว!
ถูกฆาตกรรมในโรงพยาบาล ในระหว่างการนอนรักษาตัว ถูกฆ่าในโรงพยาบาลเชียวนะ ถ้าไม่แน่จริง คนร้ายคงไม่กล้าลงมือ เสี้ยววินาทีหนึ่งบูรณิมาก็ฉุกคิดบางอย่างขึ้น
เอ๊ะ!...
ทำไมเรื่องนี้มันดูทะแม่งๆ ชอบกล
เหตุการณ์เกิดขึ้นในโรงพยาบาลที่แม่ของเธอทำงาน และผู้ต้องสงสัยว่าจะเป็นผู้ลงมือก่อเหตุคือพัดชา ลูกสาวรัฐมนตรีสุชาติ และบุคลากรในแผนกที่แม่ของเธอทำงาน ซึ่งทั้งสองคน ‘อาจจะ’ สมรู้ร่วมคิดในการกระทำผิด ตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด
บุคลากรในแผนกที่แม่ของเธอทำงาน?
มันคงไม่เกี่ยวกับแม่เธอใช่ไหม!?
แม่ของเธอไม่มีส่วนรู้เห็นในเรื่องนี้ใช่ไหม?
เสียงหนึ่งในใจดังก้องขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ ลึกๆ แล้วบูรณิมารู้สึกสังหรณ์ใจพิลึก แน่นอนเธอมั่นใจว่าแม่เป็นคนดีมาโดยตลอด แต่การที่แม่ตัดสินใจลาออกจากงาน แล้วย้ายไปอยู่ต่างจังหวัดแบบกะทันหัน มันก็น่าแปลกไม่ใช่น้อย อีกอย่างช่วงนี้บ่อยครั้งท่าทีของแม่ก็ดูลุกลี้ลุกลนผิดปกติ
ทันทีที่มีข่าวออกมาว่านีราถูกฆาตกรรมในโรงพยาบาล ตำรวจก็เพ่งเล็งไปยังพัดชาเป็นคนแรก เพราะหล่อนมีพฤติกรรมน่าสงสัยหลายอย่าง และมีพยานพบเห็นในที่เกิดเหตุ ซึ่งพัดชายืนกรานปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา โดยให้เหตุผลว่าหล่อนจะไปฆ่านีราทำไมในเมื่ออีกฝ่ายคือเพื่อนของหล่อน
ส่วนเรื่องลูกชายของจอมพลถูกลอบทำร้ายอาการสาหัส ตำรวจก็เพ่งเล็งมาที่พัดชาเช่นเดียวกัน เพราะรถของพัดชาจอดอยู่ไม่ไกลจากรีสอร์ตที่เป็นจุดเกิดเหตุ
ไฮโซสาวถูกคุมตัวไปสอบปากคำนานเกือบสิบชั่วโมง แน่นอนหล่อนเชิดหน้ายืนกรานว่าตัวเองไม่ผิด ตัวเองไม่ได้ทำ และไม่มีส่วนรู้เห็นใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งตำรวจมองว่าคำให้การของพัดชาไม่มีน้ำหนัก และเหตุผลฟังไม่ขึ้น ฉะนั้นทางตำรวจจึงตั้งข้อหาพยายามฆ่าทั้งสองคดี และขออำนาจศาลฝากขัง หากแต่โชคก็ยังคงเข้าข้างพัดชา ด้วยอิทธิพลและบารมีของรัฐมนตรีสุชาติทำให้ศาลเห็นสมควรให้ปล่อยตัวชั่วคราว โดยให้ประกันตัวด้วยหลักทรัพย์มูลค่าสูงถึงสามล้านบาท พร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร
หลังจากลูกสาวทำชื่อเสียงป่นปี้จนไม่เหลือชิ้นดี รัฐมนตรีสุชาติและภริยาก็ต้องบากหน้านำเงินมาประกันตัวลูกสาว ท่ามกลางการรุมทึ้งด้วยวาทะเผ็ดร้อนของพวกนักข่าว
“ฉันเคยบอกให้แกเลิกยุ่งกับพวกอาศิระ ทำไมแกไม่ฟังฉันบ้าง!”
ทันทีที่ประตูรถตู้หรูติดฟิล์มดำปิดลงรัฐมนตรีสุชาติก็หันไปตะคอกใส่หน้าลูกสาวอย่างเดือดดาลสุดขีด พวกอาศิระที่ถูกกล่าวถึงก็คือจอมพล อาศิระ การเข้าไปพัวพันเพราะความคลั่งรักจอมพลของพัดชา นำมาซึ่งการตกเป็นผู้ต้องหาคดีพยายามฆ่านีรา ภรรยาของจักรพรรดิ หนึ่งในผู้หญิงที่จอมพลเคยคบหา อีกทั้งพัดชายังตกเป็นผู้ต้องหาคดีพยายามฆ่าเด็กชายกัปตัน ลูกชายของจอมพล ที่เพิ่งเป็นข่าวถูกลอบทำร้ายในเวลาไล่เลี่ยกัน
“แล้วไหนจะเรื่องของเมียไอ้จักรพรรดิอีกล่ะ รู้ไหมว่าการเข้าไปยุ่งกับทั้งตระกูลมหาฤทธิไกรฤกษ์ และตระกูลอาศิระ จะนำพาหายนะมาให้ทั้งแกและฉัน”
“…”
พัดชาเม้มปากแน่นไม่ยอมตอบโต้
“นีราเขาเป็นเพื่อนแกไม่ใช่หรือไง ที่สำคัญเขามีผัวแล้ว ซึ่งผัวเขาก็คือไอ้จักรพรรดิมาเฟียขาใหญ่ของทางใต้ และมันก็บ้าเลือดพอๆ กับไอ้จอมพลด้วย”
สุชาติเค้นเสียงลอดไรฟันอย่างเหลืออด
